วันศุกร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

เช้าสายบ่ายเย็นกับชาและกาแฟ





ชาเขียวดีกับสุขภาพอย่างไร
1. ช่วยกระตุ้นสมอง ทำให้สดชื่น แจ่มใส หายง่วง  (คอกาแฟ อาจเปลี่ยนใจมารักชาเขียวเพราะข้อนี้)

2.ช่วยกระตุ้นไตให้ขับปัสสาวะมากขึ้น และยังช่วยขยายหลอดลม

3.ถ้าดื่มแบบเข้มๆ จะช่วยบรรเทาอาการท้องเสีย

4.เหมาะสำหรับผู้มีความดันโลหิตสูง เพราะช่วยขยายหลอดเลือด และเพิ่มความยืดหยุ่นใหักับกล้ามเนื้อหัวใจ

5.มีสารเคซิทิน ซึ่งมีฤทธิ์ต้านมะเร็ง

6.ป้องกันฟันผุ และเนื่องจากในชาเขียวมีสารฟลูออไรด์สูง จึงช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟัน และยังช่วยให้ลมปากหอมสดชื่นอีกด้วย

7.ช่วยลดคอเรสเทอรอล และช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับพอดี

8.ช่วย ชะลอความชรา และคงความเยาว์วัยได้ เนื่องจากสารอนุมูลอิสระในชาเขียวมีประสิทธิภาพสูงกว่าวิตามินซี 100 เท่า และสูงกว่า วิตามินอี 25 เท่า

9.ช่วยลดน้ำหนัก เพราะช่วยเร่งการเผาผลาญพลังงานและไขมันของร่างกายได้มากขึ้น

นอกจากคุณสมบัติที่เริ่ดสุดๆ เหล่านี้แล้วชั้นยังไปเจอสูตรความงามจากชาเขียวที่เราสามารถทำเองได้อย่างง่ายดายอีกด้วยค่ะ

สูตรที่ 1  น้ำแร่ชาเขียว

ง่าย สุดๆ ค่ะ แค่ต้มน้ำแร่ให้เดือด จากนั้นนำชาเขียวจะชนิดใบหรือผงก็ได้ลงไปต้ม เติมใบสะระแหน่นิดหน่อย จากนั้นทิ้งไว้ให้เย็น กรองเอาแต่น้ำ ไปแช่ตู้เย็นไว้ เวลาจะใช้ก็ใส่ลงไปในขวดสเปรย์ ใช้ฉีดเพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นเปล่งปลั่งให้กับใบหน้าได้บ่อยครั้งเท่าที่ ต้องการ

สูตรที่ 2 สูตรถนอมผิวรอบดวงตา

อัน นี้ก็แสนง่ายค่ะ แค่ต้มชาเขียวให้เดือด กรองเอาแต่น้ำ นำไปแช่ตู้เย็นให้เย็นจัด พอจะใช้ก็แค่เอาสำลีชุบน้ำชาเขียวให้ชุ่ม นำมาแปะไว้บนเปลือกตา ทิ้งไว้ซักครึ่งชั่วโมง จะช่วยลดความอ่อนล้าให้กับผิวรอบบริเวณเปลือกตา ลดอาการบวมของตาและถุงใต้ตา และยังเพิ่มความนุ่มนวลและสดชื่นให้กับผิวรอบดวงตาด้วยค่ะ

สูตรที่ 3 สูตรลดน้ำหนัก

อันนี้ยิ่งง่ายค่ะ แค่เพียงดื่มชาเขียวให้ได้วันละ 3 แก้ว ก็จะช่วยให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานและไขมันได้อย่างดีทีเดียวเลยค่ะ

แต่ การดื่มชาเขียวมีทริคสำคัญก็คือ ต้องดื่มร้อนๆ ตอนชงใหม่ๆ ถึงจะเกิดประโยชน์นะคะ และไม่ควรเติมน้ำตาลทรายขาวลงไปเด็ดขาดเพราะจะไปทำลายคุณสมบัติทางยาของชา เขียวให้หมดไป และที่น่าตกใจ (สำหรับคนที่ดื่มชาเขียวผิดมาตลอดชีวิตอย่างชี้น) ก็คือไม่ควรดื่มชาเขียวเย็นอย่างเด็ดขาด เพราะชาเขียวเย็นจะทำให้ไขมันเกาะแน่นตามผนังหลอดเลือด ซึ่งจะก่อให้เกิดโรคร้ายตามมาอีกมากมาย

ฝากคำเตือนไปยังผู้ที่ร่างกายสุขภาพไม่แข็งแรงด้วยนะคะว่า การดื่มชาเขียว อาจทำให้เกิดอาการใจสั่นและท้องผูกได้
มีรายงานทางการแพทย์พบว่า สารคาเฟอีนสามารถ่ายผ่านสายรกเข้าสู่ทารกในครรภ์ได้ แต่ยังไม่มีรายงานพบอันตรายต่อตัวอ่อนของมนุษย์อย่างชัดเจน แต่อย่างไรก็ตาม แพทย์มักแนะนำว่าให้งดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน ได้แก่ ชา กาแฟ เป็นต้นเมื่อคุณแม่เริ่มรู้ว่าตั้งครรภ์
http://www.coffeebreak.in/wp-content/uploads/2012/08/cookiecup02.jpg
กินได้ทั้งแก้วเลยนะคะ


ใน ห้องเรียนสมัยประถม เรามักจะได้รับการสอนว่า "ชาและกาแฟ" เป็นของที่เด็กไม่ควรดื่มรองจากน้ำอัดลม และเมื่อโตขึ้นมาเล็กน้อย เราก็จะได้รับการสอนเพิ่มเติมว่า เพราะชาและกาแฟมีคุณสมบัติทำให้ท้องผูก และมีคาเฟอีนที่ออกฤทธิ์ให้มีอาการนอนไม่หลับ แต่เมื่อโตขึ้นเข้าสู่ช่วงวัยทำงาน ปรากฎว่าชาและกาแฟกลายเป็นเครื่องดื่มสุดฮิตของเหล่าคนทำงานไปเลยทีเดียว ด้วยคุณสมบัติมีคาเฟอีนช่วยกระตุ้นให้สมองตื่นตัวและขับไล่ความง่วงเหงาหาว นอนนี่แหละครับ

แต่อีกกรณีหนึ่งซึ่งหลายคนอาจจะยัง ไม่ทราบก็คือ "ชา" ที่หลายๆ คนโปรดปรานนั้น มีคุณสมบัติช่วยบรรดาอาการถ่ายท้องอันเนื่องมาจากท้องเสียได้ด้วยครับ แต่ไอน์สไตน์น้อยต้องเตือนอีกครั้งก่อนจะอธิบายให้ฟังนะครับ ชาเป็นแค่ตัวช่วยบรรเทาเพราะฤทธิ์ของสารในชาออกฤทธิ์เป็นผลพลอยได้ ดังนั้นหากมีอาการท้องเสียอันเนื่องมาจากการเชื้อโรค การติดเชื้อ หรือความผิดปกติอื่นๆ ควรไปพบแพทย์นะครับ แต่ในกรณีที่สามารถจะใช้ชาเป็นตัวช่วยก็คือ อาการท้องเสียที่ไม่ติดเชื้อเท่านั้นครับ

เข้าเรื่องกันเลยดีกว่าครับสารออกฤทธิ์ช่วยให้ผู้ที่มีอาการท้องเสียอ่อนๆ หยุดถ่ายได้ก็คือ "แทนนิน" หรือในภาษาไทยที่เรียกว่า "ฝาดชา" นั่นเองครับ  เจ้าแทนนินที่ว่านี้เป็นสารที่มีโมเลกุลใหญ่และโครงสร้างซับซ้อน มีสถานะเป็นกรดอ่อนรสฝาด เป็นสารให้ความฝาดในพืช พบได้ในพืชหลายชนิด แทนนิน มี 2 ชนิด คือ คอนเดนส์แทนนิน (condensed tannins) หรือเรียกอีกอย่างว่า โปรแอนโทรไซยานิน (proanthrocyanin) พบได้ในส่วนเปลือกต้น และแก่นไม้เป็นส่วนใหญ่ และ สารไฮโดรไลซ์แทนนิน (hydrolysable tannins) คือแบบที่สามารถถูกแยกออกเป็นโมเลกุลเล็กๆ ได้ พบมากในส่วนใบ ฝัก และส่วนที่ปูดออกมาจากปกติ เมื่อต้นไม้ได้รับอันตราย (gall) แทนนิน มีคุณสมบัติตกตะกอนโปรตีน ทำให้หนังสัตว์ไม่เน่าเปื่อย จึงมีการใช้ในอุตสาหกรรมฟอกหนังด้วย แทนนินมีฤทธิ์ฝาดสมาน จึงใช้เป็นยารักษาโรคท้องเสียได้ แทนนินมีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญของแบคทีเรียได้

สำหรับ ผู้ที่มีอาการท้องเสียที่ไม่มากนัก การดื่มชาจีนที่ชงแก่ๆ สักถ้วยจะช่วยให้หยุดถ่าย และเป็นตัวเลือกที่ดีถ้าคุณไม่ต้องการกินยา แต่ถ้าหากคุณดื่มมากเกินอาจจะส่งผลเลยเถิดให้ท้องผูกได้ครับ
 

วันจันทร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

กาแฟกับชาเขียวเย็น



 
                                               
        ส่วนผสกาแฟดำร้อน (หรือเอสเพรสโซ่) 2/3 ถ้วยกาแฟ
นมสดผสมชอกโกแลต 1/3 ถ้วยกาแฟ
ผงชอกโกแลต (พอประมาณ)
น้ำเชื่อมรสชอกโกแลต 1 ช้อนชา
                  (หรือตามชอบ ถ้าไม่มี ใช้น้ำตาล หรือน้ำเชื่อมแทนได้)
                     น้ำแข็งหลอดก้อนเล็ก 1 แก้ว*

วิธีชง                                  
ผสมน้ำเชื่อมรสชอกโกแลต (หรือน้ำตาล หรือน้ำเชื่อม) ชิมรสตามชอบ
อุ่นนมให้ร้อน ประมาณ 60 องศาเซลเซียส แล้วทำฟองนมด้วยแก้ว French Pressห้ขึ้นนมเป็นฟองละเอียดนุ่ม **
ใช้ช้อนกันฟองนมจากแก้ว French Press ค่อยๆ เทนมที่ไม่เป็นฟองลงไปในแก้วกาแฟ ซึ่งอยู่ด้านล่างของแก้ว French Press แล้วคนให้เข้ากับกาแฟ
เทลงในน้ำแข็ง
ปิดหน้ากาแฟด้วยฟองนม โรยหน้าด้วยผงชอกโกแลต
ถ้าต้องการแต่งลายหน้าฟอง ใช้ผงชอกโกแลต หรือชอกโกแลตแบบเหลวราดท็อปปิ้งเล็กน้อย
คำแนะนำ
 ใช้น้ำแข็งทุบแทนได้ แต่จะละลายเร็ว ต้องรีบดื่ม
ใช้ ครีมนม หรือไอสกรีมชอกโกแลตที่ชอบ (เช่นไอสกรีมวานีลาชอกโกแลตชิป หรือไอสกรีมรสชอกโกแลต)
 
  
                                                                                                                                                 
กาแฟมอกค่าร้อน
แม้ว่าสูตรที่ถูกต้องแล้ว ต้องใช้กาแฟจากเยเมน แต่ก็เป็นที่ยอมรับกันมาตั้งนานแล้วว่า กาแฟมอกค่า ก็ตือกาแฟใส่นมที่มีชอกโกแล็ต ผสมอยู่ เป็นที่ชื่นชอบของหลายๆ ท่าน ที่ต้องการเปลี่ยนการดื่มกาแฟรสชาติที่คุ้นเคยให้แปลก และอร่อยไปอีกแบบ
ส่วนผสม
กาแฟดำร้อน (หรือเอสเพรสโซ่) 2/3 ถ้วยกาแฟ *
นมสดร้อนผสมชอกโกแลต 1/3 ถ้วยกาแฟ **
ผงชอกโกแลต (พอประมาณ)
น้ำเชื่อมรสชอกโกแลต 1 ช้อนชา (หรือตามชอบ ถ้าไม่มี ใช้น้ำตาล หรือน้ำเชื่อมแทนได้)
วิธีชง
ผสมน้ำเชื่อมรสชอกโกแลต (หรือน้ำตาล หรือน้ำเชื่อม) ชิมรสตามชอบ
อุ่นนมให้ร้อน ประมาณ 60 องศาเซลเซียส แล้วทำฟองนมด้วยแก้ว French Press (ดูเพิ่มในกาแฟคาปูชิโน) ให้ขึ้นนมเป็นฟองละเอียดนุ่ม
ใช้ช้อนกันฟองนมจากแก้ว French Press ค่อยๆ เทนมที่ไม่เป็นฟองลงไปในแก้วกาแฟ ซึ่งอยู่ด้านล่างของแก้ว French Press แล้วคนให้เข้ากับกาแฟ
ปิดหน้ากาแฟด้วยฟองนม โรยหน้าด้วยผงชอกโกแลต
ถ้าต้องการแต่งลายหน้าฟอง ใช้ผงชอกโกแลต หรือชอกโกแลตแบบเหลวที่ใช้ราดหน้าขนมปังหรือไอสกรีมราดเล็กน้อย ใช้ไม้จิ้มฟันแต่งได้ง่ายๆ
คำแนะนำ
* กาแฟดำร้อน อยากให้รสดีควรใช้กาแฟ อราบิก้า ผสม โรบัสต้า ใช้กาแฟสำเร็จรูป 2 ช้อนชา หรือกาแฟบด 2 ช้อนโต๊ะ กับน้ำ 2/3 ถ้วยชา – ประมาณ 2 ออนซ์ หรือ 60 ซีซี กาแฟสำเร็จรูป เทน้ำร้อนผสมกาแฟได้เลย ส่วนกาแฟบด (กาแฟสด) ต้องใช้เครื่องชงกาแฟ หรือแก้ว French Press
** นมชอดโกแลต ใช้นม UHT หรือ พาสเจอร์ไรซ์ รสชอกโกแลต จะให้รสชาติอร่อย อาจผสมนมสดกับโอวัลติน หรือไมโล รสชาติคล้ายกัน พอแทนกันได้แต่ไม่เหมือนต้นฉบับ
ถ้ามีแต่นมสด ไม่มีนมชอกโกแลต ใช้ผสมผงโกโก้ หรือชอกโกแลต หรือไมโล หรือโอวัลตินรสชอกโกแลต พอใช้แทนกันได้ แต่รสชาติอาจแตกต่างไปบ้าง แล้วใช้นมสดทำฟองนม เทปิดแก้วเหมือนกันได้
ชาเขียว(Green tea)ความดีความชอบของชาวเขียวอยู่ในปริมาณสารต้านพิษที่มีอยู่มากในตัวชา  นอกจากนั้นยังช่วยลดระดับ  คลอ เรสเตอรอล และยับยั้งการก่อตัวแบบผิดปกติของก้อนเลือด ซึ่งเป็นเหตุของอาการหัวใจวายและลมชัก เวลาเราร้อนๆ ก็หาโอกาสมานั่งจิบชาเขียวเย็นๆ นะคะ
ลาเต้ (Latte) เครื่องดื่มกาแฟชนิดนี้ มีไว้สำหรับคนที่ชอบดื่มกาแฟใส่นม เพราะหลักการเบื้องต้น คือการนำเอาชอตเอสเพรสโซ ผสมเข้ากับนมร้อน หรือนมเย็น(แล้วแต่ลูกค้าจะสั่ง) รสชาติที่ได้ก็จะเป็นกาแฟที่ใส่นมแล้ว ไม่เข้มข้นมากเหมือนกับเอสเพรสโซ่
คาปูชิโน่(Cappuccino)เป็นอีกหนึ่งชื่อล่ะที่คอกาแฟทั้งหลายต้องคุ้นเป็นอย่างดี กาแฟคาปูชิโนนี้ จะมีส่วนผสมเช่นเดียวกับกาแฟลาเต้ข้างต้น นั่นก็คือ ชอตเอสเพรสโซ นมร้อน และฟองนม แต่ความแตกต่างจะอยู่ตรงที่กาแฟคาปูชิโน มักจะมีปริมาณของฟองนมที่มากกว่าลาเต้ หรืออีกนัยหนึ่งคือมีปริมาณของนมร้อนที่น้อยกว่าคะ

วันเสาร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

กาแฟและชาที่คนนิยม

กาแฟกับสุขภาพ

ดื่มกาแฟอย่างไร??? ไม่ให้เสียสุขภาพ..
_____เมื่อ20 ปีที่ผ่านมา กาแฟและเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนถูกโจมตีว่า ทำให้เกิดโรคหัวใจ ความดันโลหิต เป็นหมัน ทำให้ผู้หญิงตั้งครรภ์แท้งได้หรือทารกน้ำหนักน้อย เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งรังไข่ ซีสต์ในเต้านม และกระดูกพรุน แต่ข้อมูลการวิจัยในปัจจุบันเปิดเผยว่าการดื่มกาแฟเพียงวันละ 1-2 ถ้วยนั้นปลอดภัย และอาจให้ผลดี ถ้าดื่มให้เป็น
_____รายงานผลการวิจัยจากฟินแลนด์และ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดระบุว่า คนที่ดื่มกาแฟมีความเสี่ยงการเกิดเบาหวานประเภท 2 น้อยกว่าคนที่ไม่ดื่ม ความเสี่ยงที่ลดลงเป็นสัดส่วนกับปริมาณกาแฟที่ดื่ม และกาแฟไร้คาเฟอีนให้ผลน้อยกว่า ส่วนชาไร้คาเฟอีนและเครื่องดื่มอื่นๆที่มีคาเฟอีนไม่ให้ผลเหมือนกาแฟ แต่นักวิจัยก็เตือนว่าอย่าเพิ่งมั่นใจจนหันไปโหมกาแฟ เพราะนักวิจัยยังต้องติดตามการวิจัยอีกมาก
_____นอกจากนี้กาแฟยังยังช่วยลดความ เสี่ยงการเกิดนิ่วในถุงน้ำดี มะเร็งลำไส้ใหญ่ โรคพาร์คินสัน ลดอันตรายจากตับในผู้ที่มีความเสี่ยงโรคตับ ลดอาการหอบในผู้ที่มีโรคหอบหืด เพิ่มความจำ และสำหรับนักกีฬาเพิ่มความทนและความอึดในกีฬาที่ต้องใช้เวลานาน
_____สำหรับผู้ที่ดื่มกาแฟเพราะต้อง การแก้ง่วง นักวิจัยแนะนำให้ดื่มปริมาณน้อยๆ แต่กระจายการดื่มออกไปตลอดวัน เช่น แทนที่จะดื่มถ้วยใหญ่ 16 ออนซ์ (500 มล.)ในตอนเช้า ให้ดื่มเพียงครั้งละ 2-3 ออนซ์ (60-90 มล) แต่บ่อยขึ้น กาแฟจะเริ่มออกฤทธิ์ใน 15 นาทีและจะอยู่ในร่างกายนานหลายชั่วโมง และต้องใช้เวลาถึง 6 ชั่วโมงกว่าที่จะถูกขจัดออกจากร่างกาย


ของดีในกาแฟ
_____นักวิจัยของศูนย์วิจัย ของศูนย์วิจัยใหญ่ในสวิสเซอร์แลนด์ซึ่งมีบริษัทขายกาแฟรายใหญ่ของโลกพบว่า เมล็ดกาแฟมีสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่าชาเขียวถึง 4 เท่า และยังมากกว่าโกโก้ ชาสมุนไพรและไวน์แดงอีก ที่มากกว่าเพราะผู้บริโภคดื่มกาแฟมากกว่าเครื่องดื่มอื่นๆ แต่สารต้านอนุมูลอิสระในกาแฟแต่ละถ้วยและแต่ละยี่ห้อนั้นก็ไม่เท่ากันขึ้น กับชนิดของกาแฟ

กาแฟพันธุ์โรบัสต้า
_____(Robusta) มีสารต้านอนุมูลอิสระและคาเฟอีนมากกว่าพันธ์อราบิก้า (Arabicas) ถึง 2 เท่า ซึ่งเป็นผลมาจากวิธีการคั่วกาแฟ และปริมาณกาแฟที่ละลายแต่ละถ้วย รวมทั้งยังขึ้นอยู่กับวิธีการชงกาแฟ ระยะเวลาและปริมาณกาแฟที่ใช้ด้วย

ข้อควรระวังในกาแฟ
_____คอกาแฟอย่าเพิ่งย่ามใจ กับข้อมูลด้านดีๆ เพราะองค์ประกอบหลักของกาแฟคือสารคาเฟอีนซึ่งเป็นเป็นสารกระตุ้น จึงมีผลต่อระบบหลอดเลือดและหัวใจพอสมควร โดยทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น เพิ่มความดันโลหิต และทำให้หัวใจเต้นผิดปกติในบางครั้ง งานวิจัยล่าสุดจากมหาวิทยาลัยโทรอนโทเปิดเผยว่า การดื่มกาแฟมากอาจเพิ่มความเสี่ยงหัวใจวายเฉียบพลันในผู้ที่มียีนขจัดคาเฟอี นช้า ทำให้คาเฟอีนอยู่ในกระแสเลือดนานขึ้น แต่สำหรับคนที่มียีนปกติที่ขจัดคาเฟอีนได้เร็วกาแฟก็จะไม่มีผล
_____ถึงอย่างไรนักวิจัยก็เชื่อว่า การดื่มเพียง 1-2 ถ้วยจะไม่มีผลต่อการเกิดหัวใจวายเฉียบพลันไม่ว่ามียีนอย่างไร แต่การดื่มวันละ 4 แก้วขึ้นไปไม่ให้ผลดีขึ้น ดังนั้น ควรดื่มแต่พอควร เพราะปัจจุบันการตรวจยีนยังไม่ได้มีใช้กันเหมือนการตรวจสุข ภาพทั่วไป และยีนที่แตกต่างกันทำให้ผลการวิจัยทางโภชนาการที่สัมพันธ์กับโรคต่างๆ ที่ออกมามีข้อมูลขัดแย้งกันจนเกิดความสับสน
_____ส่วนผลของกาแฟต่อสุขภาพผู้หญิง ก็ยังไม่มีผลวิจัยชัดเจน ว่าจะเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งเต้านม ซีสต์ในเต้านมหรือกระดูกพรุนหรือไม่ การเดินสายกลางจึงดีที่สุด ผู้ที่ดื่มกาแฟสกัดคาเฟอีน อาจคิดว่าปลอดภัย แต่นักวิจัยเตือนว่า กาแฟสกัดคาเฟอีนอาจเพิ่มระดับกรดไขมันในเลือดให้สร้างแอลดีแอล ซึ่งเป็นคอเลสเทอรอลตัวร้ายได้ เพราะในกระบวนการสกัดคาเฟอีนจะสกัดเอาสารเฟลโวนอยด์ซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูล อิสระและสารอื่นๆ ที่ให้รสชาติกาแฟแท้ๆ ออกไปด้วย นอกจากจะอร่อยน้อยลงแล้วยังมีผลเสียต่อสุขภาพอีกด้วย

ข้อควรปฎิบัติ
_____เลี่ยงกาแฟที่ใช้หม้อ ต้มแบบสไตล์สแกนดิเนเวีย เพราะจะมีสารไดเทอร์พีนสูง เพิ่มระดับคอเลสเทอรอลในเลือด ควรเลือกกาแฟสำเร็จรูปที่ละลายน้ำ หรือชนิดกรองหยด และเอสเพรสโซ ซึ่งจะมีผลน้อยกว่า
_____ถ้าต้องเลือกกาแฟสกัดคาเฟอีน ควรเลือกชนิดที่ใช้กระบวนการสกัดธรรมชาติ (Swiss Water Process) ตรวจ สอบยี่ห้อได้จาก SwissWater.com
_____สำหรับผู้ที่เลี่ยงกาแฟอยู่แล้ว ไม่ควรหันมาดื่มเพียงเพื่อต้องการผลดีจากคาเฟอีน โดยเฉพาะคนที่ร่างกายไวต่อกาแฟ การดื่มอาจยิ่งเพิ่มผลเสีย เช่น หัวใจเต้นเร็วขึ้น ความดันโลหิตสูงขึ้น กระวนกระวาย นอนไม่หลับ กระเพาะหลั่งกรดออกมามากเกินควร ทำให้ปวดท้อง และเป็นสารขับปัสสาวะทำให้ร่างกายเสียน้ำมากขึ้น ดังนั้นทุกครั้งที่ดื่มกาแฟควรดื่มน้ำตามไปชดเชยด้วย

_____
ระวังสิ่งที่เติมลงในกาแฟ
_____เช่น ครีม นมไขมันเต็ม น้ำตาล น้ำผึ้ง เพราะเท่ากับเติมพลังงานส่วนเกิน กาแฟมาตร ฐาน 1 ถ้วย มีขนาด 5-6 ออนซ์หรือ 150-180 มล. แต่ที่ขายโดยทั่วไปนั้นมีขนาด 12 ออนซ์หรือ 360 มล . ซึ่งมากกว่าถึง 2 เท่า ดังนั้น ควรจำกัดการดื่มให้ไม่เกิน 5 ถ้วย ซึ่งเป็นปริมาณที่ใช้ในการศึกษาวิจัย
_____สารคาเฟอีนเป็นสารธรรมชาติที่พบ ในอาหารอื่นด้วยเช่นใบชา เมล็ดโคลา โกโก้ ช็อคโกแลต น้ำอัดลมสีดำ และยาบางชนิด ซึ่งอาจทำให้ร่างกายได้รับคาเฟอีนเกินควร จึงต้องตรวจสอบพฤติกรรมของตัวเองเสมอ

น้ำชามะนาว
เริ่มจากคุณประโยชน์ของชากันก่อน
ชา มีอยู่หลายชนิดครับ ชาเขียว ชาดำ ชาดอกไม้ แต่ไม่ว่าจะชาไหนต่างก็มีวิตามินอยู่ ไล่ตั้งแต่วิตามีน A, B1, B2, B3, P, PP, C เป็นต้น ในจำนวนนี้วิตามีน C มีมากที่สุดผู้ใหญ่ดื่มชาเขียวสองถึงสามถ้วยทุกวัน ก็จะได้วิตามีน C ปริมาณครึ่งหนึ่งที่ร่างกายต้องการ
ชา ช่วยย่อยสลายไขมัน ลดคลอเรสเตอรอลได้ โดยเฉพาะชาอูหลง ดื่มอูหลง 300 ซีซี. ช่วยสลายพลังงานไป 40 แคลลอรี่ (เทียบได้กับเดินเร็ว 15 นาที หรือเดินขึ้นลงบันได้10 นาที)ยิ่งกว่านั้นอูหลงยังเหมาะสำหรับคนที่เวลาเครียดหรืออารมณ์หงุดหงิด แล้วหาทางออกด้วยการกินได้อีกด้วย เพราะอูหลงจะไปช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง
ชาช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผนังเส้นเลือดและขยายหลอดเลือด ช่วยลดความดันและป้องกันเส้นเลือดตีบได

คัดเฉพาะยอดอ่อน 3 ใบแรก ไม่บดเป็นผงมั่นใจว่าคัดเฉพาะยอดอ่อนล้วนๆ ไม่ปนใบแก่
  กลิ่นหอมเฉพาะตัวของชาอูหลง   ชุ่มคอ หวานลำคอ  รสชาติดี มีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยลดคลอเลสเตอรอล
  ลดไขมัน  มีสารต้านอนุมูลอิสระในอันดับต้นๆของสมุนไพร
ใบชาจากธรรมชาติ 100 % เกรดเอ ไม่เติมสี  ไม่ใส่กลิ่น ไม่มีสารเคมี
ใบชาปลูกโดยวิธีธรรมชาติ ปลอดสารเคมี โดยกลุ่มเกษตรชาดอยตุง พื้นที่ปางพระราชทาน 4,000ไร่ จ.เชียงราย
  ผลิตโดยมาตรฐาน อย. และส่งเสริมสร้างงานชุมชนเกษตรดอยตุง
  ควบคุมคุณภาพการผลิต และใช้บรรจุภัณฑ์ที่ป้องกันความชื้น ป้องกันแสง
- อายุสินค้า  2-3 ปี

ส่วนผสม : ยอดใบชาพันธุ์อูหลง เบอร์ 12 จากธรรมชาติ 100%

วิธีชงชา : 1. ใส่ใบชาประมาณ 1-2 ช้อนชา (ต่อน้ำ 8 ออนซ์) ลงในกาชา
                  2. เทน้ำเดือดลวกทิ้ง 1 ครั้ง
                  3. ชงชาประมาณ 3 นาทีจึงรินดื่มจนกว่ากลิ่นหอมจะเจือจาง


หมายเหตุ :  - ปริมาณใบชาที่ใช้ชงแต่ละครั้ง มาก-น้อย ขึ้นอยู่กับความชอบของลูกค้าแต่ละท่าน ซึ่งมีผลต่อความหอมและรสชาติ
                     - ใบชาอูหลง เบอร์ 12 ของร้านชาไอคอน ไม่มีการเติมน้ำหอม (ดังบางแหล่งผลิต)  
                     - น้ำชาอูหลง เบอร์ 12 ของร้านชาไอคอน จะมีกลิ่นหอมอ่อนนุ่ม คล้ายน้ำผึ้งและดอกไม้ธรรมชาติ อ่อนๆ  และรสชาติไม่ฝาด

วันศุกร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

กาแฟเย็น

   - เอสเพรสโซ 2 ช็อต

    - น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ

    - ครีมเทียม 2 ช้อนโต๊ะ

    - นมข้นจืด 1 ช้อนโต๊ะ

    - น้ำแข็งบด 16 ออนซ์

    ผสมส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน ยกเว้นนมข้นจืด
   เทลงใส่แก้วขนาด 16 ออนซ์ที่เติมน้ำแข็งเต็ม แล้วจึงค่อยๆเทนมข้นจืดตามลงไปจนเต็ม
เพิ่มคำอธิบายภาพ

ประเทศไทยเป็นผู้ผลิตกาแฟรายใหญ่ที่ถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่สี่ในเอเชีย กาแฟส่วนใหญ่ที่พบในประเทศไทยทำมาจากเมล็ดกาแฟที่นำมาจากแหล่งผลิตเดียว เช่นจากดอยอินทนนท์ ดอยวาวี หรือดอยช้าง กาแฟจากแหล่งดังกล่าวมีลักษณะเด่นอย่างชัดเจน เช่น ขม เข้มข้น  ร้านกาแฟส่วนใหญ่แต่ละร้านจะขายกาแฟที่นำมาจากแหล่งผลิตเดียว คุณจึงเดาได้ว่ารสชาติของกาแฟแต่ละร้านจะมีรสชาติแบบไหน  นักท่องเที่ยวที่มาเมืองไทยจะแปลกใจในความเข้มข้นของกาแฟร้อนที่เขาสั่งมา ดื่ม ซึ่งเป็นปรกติของร้านกาแฟที่จะนำเอาเมล็ดกาแฟคั่วบดชนิดเดียวกับที่ทำกาแฟ เย็นมาทำเป็นกาแฟร้อน รสชาติของกาแฟร้อนจึงเข้มข้นมาก ในขณะที่เมล็ดกาแฟที่ถูกคั่วจนกลายเป็นสีดำนั่นเหมาะมากที่จะนำมาทำเป็นกาแฟ เย็น เนื่องจากน้ำแข็งที่ถูกผสมลงไปช่วยเจือจางความเข้มข้นจึงทำให้ได้รสชาติที่ พอเหมาะ นานกว่า 10 ปี ที่อัลติคอฟฟี่สรรหาและทดลองรสชาติของกาแฟจากแหล่งผลิตทั่วทุกแหล่งในภาค เหนือของประเทศไทย เราจึงได้ผสมผสานเมล็ดกาแฟจากหลายแหล่งที่มาเข้าด้วยกันจนได้กาแฟที่มีรส ชาติดีที่สุด ผลที่ได้คือเมล็ดกาแฟชั้นดีที่เรียกว่า กาแฟอัลติ
หลังจากทำการผสมเมล็ดกาแฟแล้ว เรานำไปคั่วที่ความร้อนแต่งต่างกันเพื่อให้ได้กาแฟรสชาติอ่อน กลางๆ และเข้มข้น ให้คุณได้เลือกตามความชอบ  นับเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่มีการผสมผสานให้เกิดความพิเศษในกาแฟเช่นนี้ ไม่เพียงแค่รสชาติกาแฟที่เป็นเอกลักษณ์เท่านั้น ยังไม่มีที่ไหนในโลกใบนี้ที่มีกาแฟรสชาติแม้แต่ใกล้เคียงกาแฟของเรา  และเนื่องจากความสำเร็จของเราในประเทศไทย กาแฟอัลติกำลังขยายธุรกิจให้คุณหาซื้อกาแฟอัลติได้ทั่วโลก  เรายังส่งออกกาแฟคั่บดและเมล็ดกาแฟดิบอีกด้วย ซึ่งคุณยังสามารถนำเมล็ดกาแฟของเราไปผสมกับเมล็ดกาแฟของคุณเพื่อให้เป็นกาแฟ แก้วพิเศษได้อีกด้วย

น้ำปั่น

คาปูชิโน่ถือสัญชาติอิตาเลี่ยนเหมือนกับเอสเปรสโซ่ ซึ่งเป็นดินแดนที่พิถีพิถันเรื่องกาแฟมา แต่ในอดีต จึงไม่แปลกใจที่สามารถเนรมิตเมนูคาปูชิโน่นี้ ออกมาเย้ายวนให้คอกาแฟทั่วโลกติดใจ ขั้นตอนก็แสนจะเรียบง่าย ด้วยการผสมเอสเปรสโซ่เข้ากับนมร้อนในอัตราส่วนเท่าๆกัน แล้วค่อยๆหยอดฟองนมสีขาวลงบนหน้าจนหนาได้ที่ เมื่อยกดื่มน้ำกาแฟอุ่นๆ ซึ่งทั้งหอมทั้งมันด้วยส่วนผสมของนมที่ลอยอยู่เต็มปากแก้ว เป็นรสชาติและสัมผัสที่แสนวิเศษ
10 สูตรกาแฟสดร้อน –เย็น
กาแฟคั่ว/นมสด100%/น้ำตาลทรายหรือทำเป็นน้ำเชื่อม/นมข้นหวาน/นมข้นชนิดไม่หวาน/แก้วสำหรับใส่เครื่องดื่มตามความชอบ


กาแฟกาแฟร้อนขนาด 8-10 ออนซ์/แก้วกาแฟ 3-4 ออนซ์ /แก้วตวงขนาด 2 ออนซ์ หรือจะมีตัวเลขความจุที่ 45 cc หรือ ml/ ช้อนคนกาแฟ

ก่อนอื่นสิ่งที่สำคัญสำหรับนำไปเป็นส่วนผสมหลัก คือ กาแฟเอสเปรสโซ่นั่นเอง

 สูตรเอสเปรสโซ่ Espresso Recipes
 กาแฟคั่วกลาง Medium Roasted 10 กรัม/g, หรือ ประมาณ 1 ½ ช้อนตวงกาแฟบด หรือ
 กาแฟคั่วเข้ม Espresso Roasted   8 กรัม/g.
วิธีชง
นำ กาแฟมาบดแล้วชงด้วยเครื่องชงกาแฟ กลั่นให้ได้น้ำกาแฟประมาณ 25 - 30 ซีซี กาแฟเอสเปรสโซ่คือกาแฟที่จะนำไปเป็นส่วนผสมหลักในกาแฟสูตรร้อน-เย็นอื่นๆ ที่จะนำมาให้ลองชงกันดูนะคะ
หลังจากชงกาแฟเอสเปรสโซ่ได้แล้ว ก็มาลองนำสูตรที่แนะนำและถึงแม้จะเป็นสูตรพื้นๆ แต่ก็น่าจะทำให้มือใหม่ๆได้ลองชงลองชิมนะ
 *tip น้ำหนักกาแฟคั่วจะมีน้ำหนัก-เบา ที่แตกต่างกันตามลักษณะการคั่ว ดังนั้นการที่จะนำเอามาตรฐานน้ำหนักของกาแฟคั่วตัวใดตัวหนึ่งมาบอกเป็นตัว เลขกำหนดว่า 8-10 กรัมนั้นจะเป็นค่าเฉลี่ย ของน้ำหนักกาแฟคั่ว เมื่อนำมาบดจะให้ปริมาณผงกาแฟต่างกันไปด้วย จึงควรขอความรู้จากผู้สอนชงกาแฟ หรือหากจะเรียนรู้ด้วยตนเองก้ไม่ยากเพียงแค่ใช้การตวงกาแฟที่บด ด้วยการตักใส่ในตะแกรงที่มีตั้งแต่ 1-2 หรือจะมีคนแนะนำให้เลือก แบบ 3ชอท มาใช้ซึ่งอันหลังเพิ่งจะได้ยินจากคนขายเครื่องชงที่แนะนำ แต่หากรู้จักสังเกต ตระแกรง 1ชอทจะไม่ลึกเท่ากับ 2ขอท เมื่อซื้อเครื่องชงมาจะมีมาให้ 2ขนาดคือ ตระแกรงแบบ 1และ2ชอท คือ 1ชอทสำหรับคนชอบกาแฟไม่เข้มเกินไปการตวงด้วยการตักกาแฟที่บดแล้วพอดีตระแกรง แล้ว กดด้วยเทมเปอร์ อีกหนึ่งอุปกรณ์ที่จำเป็นเหมือนกันสำหรับการใช้เตรียมกาแฟก่อนชง ดังนั้นเมื่อจะบดกาแฟ จะได้คำตอบว่าเครื่องรุ่นที่คุณใช้ควรบดกาแฟละเอียด-หยาบอย่างไรและจำเป็น หรือไม่ที่ต้องกดด้วยตัวกดกาแฟ(เทมเปอร์)เพื่อช่วยให้เกิดแรงกดเมื่อนำไปชง การไหลของกาแฟจะได้น้ำกาแฟที่เข้มขึ้น ก็น่าจะอยู่ที่การทำความเข้าใจและรู้พื้นฐานของเครื่องชงที่คุณมีด้วยนะ

กาแฟคาปูชิโน่ Cappuccino Toffee Nut



กาแฟเอสเปรสโซ่ 1 ช็อท  Espresso     1 Shot [Arabica 100%Medium Roasted]
น้ำเชื่อมกลิ่นท็อฟฟี่นัท 10 ซีซี Toffee Nut Syrup 10 ml.
ฟองนม  Milk Frothing
(จาก การนำนมสดมาเป่าด้วยเครื่องชงกาแฟ ที่จะมีท่อสำหรับเป่าลมร้อนได้ หรือจะอุ่นนมให้ร้อนแล้วนำมาตีด้วยเครื่อง ตีฟองนมมือ) สามารถชมได้จากคลิปวีดีโอ
วิธีการชงกาแฟ
นำ แก้วกาแฟขนาด 8 ออนซ์ นำมาอุ่นด้วยการใส่น้ำร้อนแล้วทิ้งไว้ ระหว่างที่เตรียมกาแฟมาชงด้วยเครื่องชง เมื่อนำใส่ในหัวกรุ๊ปให้เทน้ำร้อนที่ใส่ในถ้วยกาแฟที่เตรียมไว้ เติมน้ำเชื่อมกลิ่นลงไปนำแก้วกาแฟไปรอง เมื่อได้กาแฟแล้วนำ ฟองนมมาตักลงไปบนกาแฟ เวลาตักฟองให้พูนช้อน ให้ได้ฟองฟูบนน้ำกาแฟ แล้วเติมน้ำนมลงไปเล็กน้อย จะโรยผงอบเชยป่นเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความหอมและให้ได้อารมณ์ของกาแฟคาปูชิโน่ ที่ต้องมีกลิ่นหอมอ่อนๆของ เครื่องเทศอย่างอบเชยป่น
** หลายคนบอกอบเฃยบนฟองนมทำให้รู้สึกเหมือนดื่มกาแฟรสพะโล้ จริงๆแล้วอบเชยนั่นมีมากมายหลายชนิด ให้กลิ่นต่างไปตามแหล่งปลูก ถ้าจะให้คิดก้คงไม่ต่างจากกาแฟสด ที่ปลูกกันหลายประเทศ หรือแม้แต่ในประเทศไทย ก็ยังเถียงกันเรื่องกลิ่น เรื่องรสชาติว่าอย่างโน้นอย่างนี้ อบเชยที่เป็นเครื่องเทศที่นำมาปรุงแต่งอาหารหรือนำมาใช้ในเครื่องดื่มเอง ก็ต้องเลือกชนิดและควรรู้ว่าแต่ละที่มามันให้รสกลิ่นอย่างไร แต่หากไม่ไปกังวลหรือจริงจังจนทำให้กาแฟหนึ่งถ้วยเป็นเรื่องใหญ่ อบเชยป่นที่ขายในซุปเปอรืในขวดหลากยี่ห้อ สามารถนำมาโรยได้ ก้ให้ดมกลิ่นก่อนที่ซื้อมาใช้เท่านั่นเอง
กาแฟม็อคค่าวนิลาครีม Mocha Vanilla Whipped Cream
กาแฟเอสเปรสโซ่ 2 ชอท  Espresso 2 Shot
โกโก้หรือช็อคโกเลตซอส 10 ซีซี Cocoa or chocolate Sauce 10 m
น้ำเชื่อมกลิ่นวนิลา 1 ช้อนชา Vanilla syrup 1 tea spoon
วนิลาวิปปิ้งครีม Vanilla Whipped Cream
วิธีชง
เติม ซอสโกโก้และน้ำเชื่อมกลิ่นลงไปในแก้ว แล้วชงกาแฟให้ได้ปริมาณ 50 ซีซี แล้วบีบวิปปิ้งครีมลงไปบนกาแฟ เวลาดื่มจะได้ความหอมของกาแฟและรสหวานมันของกาแฟที่ผสมไปด้วยวิปปิ้งที่ ละลาย ความชอบขึ้นอยู่กับผู้ดื่ม ที่ชอบความหวานมันของสูตรนี้นะคะ
กาแฟฮาเซนัท ลาเต้ Hazelnut Latte Coffee

กาแฟเอสเปรสโซ่ 1 ช็อท  Espresso     1 Shot [Arabica 100%Medium Roasted or Espresso Roasted]
น้ำเชื่อมกลิ่นฮาเซนัท 10 ซีซี Hazelnut Syrup 10 ml.
ฟองนมร้อน  Milk Stream
วิธีชง
เติม น้ำเชื่อมกลิ่นแล้วชงกาแฟ เติมนมร้อนลงไป ประมาณ 5 ออนซ์ แต่งด้วยฟองนมเล็กน้อยหรือจะแต่งเป็นรูปต่างๆตามความถนัด หรือไม่ต้องก็ได้
ความ ต่างของกาแฟสูตรลาเต้และคาปูชิโน่ ต่างกันที่ปริมาณของนมร้อน และฟองนม โดยทั่วไปจะเป่าฟองนมให้เป็นฟองนมเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน ไม่แยกชั้นฟองกับน้ำนม เมื่อเติมลงไปใน ถ้วยกาแฟที่มีเอสเปรสโซ่แล้วจะได้กาแฟรสนม นุ่มละมุนกรุ่นกลิ่นนมและกาแฟที่ลงตัว ส่วนกาแฟคาปูขิโน่จะได้ความเข้มของกาแฟ ที่มีกลิ่นหอมของฟองนมและอบเชยป่น ความเข้มข้นของกาแฟ ที่มีฟองนมเนียนอยู่ด้านบน จึงจะได้ 2รสชาติกาแฟและฟองนมที่แยกกันชัดเจน โดยทั่วไปการดื่ที่มีการเติมน้ำเชื่อมหรือน้ำตาลทรายเพื่อเพิ่มความหวานจะ ไม่นิยมคนให้ฟองและกาแฟ ปนกัน เพียงแค่จุ่มช้อนกาแฟลงไปคนในส่วนก้นแก้วให้น้ำตาลหรือน้ำเชื่อมละลาย โดยที่ไม่ให้ฟองนันแตกตัวไปปนกับน้ำกาแฟ เวลายกขึ้นดื่มจะได้ย้ำกาแฟเข้มข้นตามด้วยฟองที่จะเข้าไผสมกันในปากเมื่อ ดื่มจะได้รสกาแฟเต็มปากชุ่มคอตามด้วยหอมนมและรสมันของนมที่เป่าให้ได้ครีม นม(ผู้เขียนไม่เก่งในการเขียนหรืออธิบายมากนัก หากแต่ต้องชงและสัมผัสด้วยตนเอง ถึงรสชาติกาแฟที่ชงให้ถูกต้องและดื่มให้เป็น เท่านี้การมาถกเถียงถึงวัฒนธรรมการดื่มกาแฟที่เรายืมต่างชาติหรือเจ้าของ วัฒนธรรมมาใช้คงจะลดลงหรือหมดไปสักที
 *ถึง อย่างไรใครจะชอบวิธีดื่มแบบไหน แบบที่เป็นตนเองก้ไม่มีกติกาห้าม เพียงแต่หากดื่มแล้วไม่ถูกอกถูกใจ ไม่มีอะไรดีไปกว่าการบอกหรือแนะนำตรงๆ บอกความต้องการของคุณให้คนชงกาแฟรู้ จะดีกว่า เพราะไม่มีใครรู้ใจใครโดยที่ไม่เรียนรู้กันก่อน เจ้าของร้านกาแฟพร้อมที่จะทำให้ถูกใจคุณอู่แล้ว การให้กำลังใจกันและกันเป็นสิ่งที่น่าทำเป็นที่สุด ผู้เขียนเชื่อว่า ทุกคนอยากให้ลูกค้าประทับใจกาแฟที่เขาได้ชงทุกคน
กาแฟเอสเปรสโซ่คอน ปันนา Esprsso Con Panna
ส่วนผสม
กาแฟเอสเปรสโซ่ 1 ชอท Espresso 1 Shot  [ Serve with 3 Oz cup ]
วิปปิ้งครีม     Whipped Cream
วิธีฃง อุ่นแก้วให้ร้อน ด้วยการเติมน้ำร้อนลงในแก้ว เมื่อแก้วเริ่มมีความร้อนก็เทน้ำทิ้งไป แล้วนำแก้วที่อุ่นไปรองน้ำกาแฟ แล้วบีบวิปปี้งครีมลงบนฟองกาแฟแบบในภาพ ครีมจะละลายในกาแฟและเมื่อดื่มจะดื่มให้หมดด้วยควารวดเร็ว จะไม่จิบแบบกาแฟร้อนอื่นๆ เพราะปริมาณของกาแฟที่เสิร์ฟด้วย ถ้วยเล้กๆ อย่าง เอสเปรสโซ่ที่นิยมดื่มให้หมดเมื่อเสิรืฟ เพราะหากปล่อยให้กาแฟเย็นลงทำให้รสชาตที่ดีหายไปได้ หรือใครอาจจะชอบดื่มกาแฟที่ไม่ร้อน แต่ดูเหมือนจะไม่มีใครสั่งเอสเปรสโซ่ หรือ กาแฟถ้วยเล็กๆ อย่าง เอสเปรสโซ่คอนปันน่า หรือ เอสเปรสโซ่มัคคีอาโต้ แล้วมานั่งจิบทีละนิดเป็นแน่
 
* กาแฟเอสเปรสโซ่มัคคีอาโต้ หรือ Espresso Macchiato คือกาแฟเอสเปรสโซ่ ที่หยอดฟองนมลงไป เข้าใจว่าคนที่ชอบกาแฟดำถ้วยเล็กๆ แต่อยากเพิ่ม ความมันจากครีมหรือฟองนม จึงเกิดสูตรนี้มา แต่ส่วนความเป็นมาอย่างไรจะหาข้อมูลมาเพิ่มเติมให้ แต่นั่นสิคนเรานานาจิตตัง เหมือนกาแฟเข้มข้นๆอย่างเอส เปรสโว่แต่เพิ่มความหอมมันจากวิปปิ้งครีม การดื่มเครื่องดื่มปรุงแต่งรส ก้น่าจะมีผลมาจากวัฒนธรรมของแต่ละประเทศ ที่มีวัฒนธรรมการกิน ดื่มที่แตกต่างกันไป การที่มีการติดต่อระหว่างประเทส ก็เกิดการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมต่างๆ การนำสิ่งที่เป็นต้นแบบมาปรับเปลี่ยนให้ถูกปาก ถูกใจอย่างอาหารหรือเครื่องดื่มก็ต้องยืนพื้น ให้ตรงกับลิ้นคนไทยเรา อย่างการกินอาหารรสเผ็ด แต่เรารับอาหารรสจืด แต่ต้องมาปรุงรสให้มีความเผ้ดเค็มหรืออื่นๆเพิ่มขึ้น อย่างกาแฟเองคงจะไม่ ต่างไปมากนักกับการมาปรุงแต่งหรือ ปรับสูตร แม้กระทั่งต้องคิดสูตรใหม่ๆที่ทำให้คนไทยอย่างเราๆรับได้ ต่างชาติก็เช่นกัน ชอบอาหารไทยแต่ก็ยังต้องปรับรสเผ้ดให้ลดลง ถ้าจะกินแบบคนไทยคงต้องใช้เวลานานพอสมควร เหมือนกาแฟเราที่รับมาเกือบ 100ปีแล้ว ยังปรับยังรับกันไม่ได้ทั้งหมดเลย อย่าคิดมากไปมัน คือกาแฟ เราชอบแบบไหน รสไหนก้สุดแท้แต่ความชอบของเราแต่อย่างไรก้ควรรู้พื้นฐาน หรือความเป็นกาแฟของแต่ละสูตรไว้บ้าง จะได้นำมาลดหรือเพิ่มใน แบบของเราได้ดีขึ้น อย่างไรก็ดี ชงกาแฟแบบเข้าใจเครื่อง เข้าใจกาแฟ(จริงๆเราต้องเข้าใจตนเองว่าทำอะไรด้วย)การชงกาแฟเอสเปรสโซ่ที่ดี ได้เหมาะกับเครื่องชงที่ตนมี ก้คงพอจะให้นำเอสเปรสโซ่ไปผสม สูตรกาแฟเย็นอื่นๆ ที่จะนำมาฝากได้นะ

 กาแฟม็อคค่าเย็น Ice Mocha Coffee Recipe
 ส่วนผสม
  •  เอสเปรสโซ่       2  ชอท     Espresso  2 Shot [60 ml]Espresso Roasted Bean
  •  ผงโกโก้         1  ช้อนชา    Cocoa powder 1 tea Spoon
  •  ครีมเทียมข้นหวาน  1  ช้อนโต๊ะ    Sweetened Condensed Creamer  1 table Spoon
  •  น้ำตาลทราย      1  ช้อนโต๊ะ    Sugar       1  table Spoon
  •  นมสด          1  ออนซ์     Fresh Milk   1 Oz
  •  น้ำแข็งบด  Ice 
 วิธีชง  
ชง กาแฟเอสเปรสโซ่ 2 ชอท (ใช้กาแฟบดประมาณ16-20 กรัม จะใช้คั่วกลางหรือเข้มก็ได้) ใส่ผงโกโก้และน้ำตาลทรายลงในถ้วยชงกาแฟตามด้วยเอสเปรสโซ่ที่ชงมาร้อนๆ
ผสมลงไปคนจนละลาย เติมส่วนผสมอื่นๆลงไป คนจนเข้ากันดีเติมลงในแก้วกาแฟที่เติมน้ำแข็งไว้ พร้อมเสิร์ฟ สูตรนี้ใช้แก้วขนาด 16 ออนซ์
 ม็อคค่าบราวแซนเย็นด์ Ice Mocha Brown sand Recipes

 ส่วนผสม
  • กาแฟเอสเปรสโซ่   1 ชอท   Espresso 1 shot [use2 shot basket coffee ground about 20g.]
  • ผงโอวัลติน       1 ช้อนชา Ovaltine 1 tea spoon
  • น้ำตาลทราย      1 ช้อนโต๊ะ Sugar   1 table spoon
  • ครีมเทียมข้นหวาน  1 ช้อนโต๊ะ Sweetened Condensed Creamer 1 table Spoon
  • ฟองนม
  • น้ำแข็งบด        
 วิธีชง
ผสมกาแฟเอสเปรสโซ่ และผงโอวัลลติน น้ำตาลทรายให้ละลายเข้ากัน เติมครีมเทียมข้นหวาน แล้วเทลงในแก้วที่ใส่น้ำแข็ง แต่งด้วยฟองนม
และผงโอวัลติน แบบในภาพ พร้อมเสิร์ฟ จะให้รสชาตที่หอมอร่อยทั้งกลิ่นและรส กาแฟบวกกับโอวัลตินที่ลงตัว ส่วนเรื่องความหวานก็เพิ่มหรือ
ลดลงตาแต่ความชอบ ใช้แก้วขนาด 16 ออนซ์นะคะ
 กาแฟคาปูชิโน่เย็น Ice Cappuccino Coffee
 ส่วนผสม
  •  กาแฟเอสเปรสโซ่   2   ชอท   Espresso      2 Shot
  •  น้ำเชื่อม         3/4 ออนซ์  Syrup         3/4 oz
  •  นมข้นชนิดจืด     3/4 ออนซ์  Daily Creamer 3/4 oz
  •  ฟองนม/น้ำแข็งบด
 วิธีชง
 ผสม กาแฟเอสเปรสโซ่ น้ำเชื่อม นมข้นชนิดจืด คนให้เข้ากัน เทลงในแก้วที่ใส่น้ำแข็งบด แต่งด้วยฟองนม โรยด้วยอบเชยป่นเล็กน้อย พร้อมเสิร์ฟ
 ใช้แก้วขนาด 16-18 ออนซ์
**กาแฟสูตรนี้มักจะมีการนำมาวิพากวิจารณ์กันถึงรสชาติและการชง อย่างโน้นอย่างนี้ ผู้เขียนก็พัฒนาตามสูตรร้อนที่มีอยู่แล้วนำมาปรับเปลี่ยนเล็กน้อยส่วนกาแฟอีกสูตรคือลาเต้เย็น ที่มีปัญหาสำหรับคนชงกาแฟ ที่มักจะเจอเซี่ยนชั้นเทพบ้างละ รู้เฟื่องเรื่องกาแฟบ้างละ จริงๆแล้วผู้เขียนไม่ได้ไปคิดอะไรมากมายกับคำพูดต่างๆ แต่ก็นำมาปรับและแก้ปัญหาให้กับผู้ที่มาเรียนชงเครื่องดื่มกับผู้เขียน เพราะทุกคนมีความชอบ ความพอใจในรสชาตกาแฟต่างกันไป แต่หากเราทำส่วนผสมให้ได้ดีรสชาตออกมาดี พอที่จะทำให้ลูกค้าพอใจ รับได้กับราคาที่สมเหตุสมผลราคาและบริการไปในทิศทางเดียวกัน ขนาดของร้านที่ดูธรรมดา ตกแต่งพอประมาณใช่ว่าจะบริการไม่ดีเท่าร้านใหญ่แบรนด์ดังๆไม่ได้ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับกลุ่มลูกค้าที่จะให้คำตอบเราได้ทำหน้าที่ของเราในการชงกาแฟที่เน้นตามลูกค้าบ้างโดยต้องมีเทคนิคและความชำนาญในการแก้ไขปัญหาเพาะหน้า และการมีความรู้ความสามารถเฉพาะตัวในการทำให้ลูกพอใจ กาแฟจะชงแบบไหนก็อย่าให้ไกลจากต้นฉบับไปมากนัก อย่างน้อยการเคารพต้นแบบเป็นสิ่งหนึ่งที่ควรจะทำ เพราะเราเอาสิ่งที่มาก่อนมาใช้ประกอบอาชีพและสร้างรายได้ให้แก่เรา การให้กลับด้วยการอ้างอิงถึงในทางที่ดี เป็นสิ่งที่งดงามเสมอสำหรับการได้อยู่ร่วมกัน ส่วนใครอยากมีสูตรใหม่ๆก็ไม่ผิดกติกามารยาทอีกเช่นเคย

เช้าๆกับกาแฟแสนหอม






กาแฟ : มนุษย์เรารู้จัก กาแฟ มาเป็นระยะเวลายาวนาน จนถึงปัจจุบันยิ่งเป็นที่แพร่หลายไปทั่วโลก กาแฟ จึงเป็นเครื่องดืมยอดนิยมได้ ทุกเวลา และแพร่หลายไปทั่วโลก แต่จะมีอีกกี่คนที่ทราบถึงประโยชน์ของกาแฟ ซึ่งนอกจากให้รสหอมกรุ่นแล้ว หากรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม "คาเฟอีน" จากกาแฟมีประโยชน์ต่อร่างกาย นอกจากนี้ในกาแฟยังมีวิตามินอีกหลายชนิด แต่มีอยู่ในปริมาณที่ไม่มีเหมือนคาเฟอีน ในกาแฟจะมีสารคา เฟอีน ซึ่งสารตัวนี้จะออกฤทธิ์กระตุ้นให้สมองตื่นตัว ร่างกายกระชุ่มกระชวย ซึ่งจะเร่งความเร็วของการประมวลผลข้อมูล ในสมองและย่นระยะเวลาในการตอบสนอง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของงานที่ต้องการสมาธิ การใช้เหตุผลและความจำ กาแฟช่วยกระตุ้นในทุกส่วนของร่างกาย
  คุณประโยชน์ของกาแฟ
• มีฤทธิ์ เป็นยาระบายและยาขับปัสสาวะอย่างอ่อน ๆ
• กระตุ้นให้เกิดความรู้สึกกระปรี้กระเปร่า
• ทำให้ตื่นตัวและแก้ง่วงได้

การดื่มกาแฟในปริมาณ ที่พอเหมาะ ช่วยลดความหงุดหงิด อารมณ์ซึมเศร้าและความเครียดได้ ทำให้ผู้ดื่มรู้สึกพึงพอใจและมีความสุข คลายเครียดได้ในระดับหนึ่ง
ด้านโภชนาการ การดื่มกาแฟยังช่วยให้ร่างกายได้รับของเหลวเข้าไปในปริมาณที่เพียงพอต่อวัน กาแฟ จึงควรดื่มในปริมาณที่เหมาะสม
ในกาแฟยังมีแร่ ธาตุไนแตซเซียมและไนอาซีน ซึ่งเป็นวิตามินบีชนิดหนึ่งที่มีประโยชน์ นอกจากนี้ยังมีรายงานวิจัยว่าคาเฟอีนในกาแฟช่วยกระตุ้นการใช้พลังงานของร่าง กาย ทำให้ไขมันสลายตัวเพิ่มขึ้น จึงอาจดื่มกาแฟเป็นเครื่องดื่มในการลดน้ำหนักไปในตัว
คาเฟอีนและสาร อื่นที่มีอยู่ในกาแฟช่วยกระตุ้นการหลั่งกรดและน้ำย่อย กาแฟจึงช่วยในการย่อยอาหารเป็นเหตุให้คนจำนวนมากดื่มกาแฟหลังอาหารแต่ละมื้อ
จากการวิจัยทาง การแพทย์สหรัฐฯ โดยดร.จี เวปสเตอร์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบประสาทและคณะจากศูนย์การแพทย์นครฮอนโนลูลู สหรัฐฯ พบว่าผู้ชายที่ไม่ดื่มกาแฟมีโอกาสที่จะป่วยเป็นโรคพาคิสันมากกว่าพวกที่ดื่ม กาแฟมากกว่าวันละ 5 ถ้วย ถึง 5 เท่า ดังนั้น กาแฟจึงมีประโยชน์ต่อร่างกายพอสมควร
กาแฟและผลกระทบ : ผล กระทบของคาเฟอีนต่อเส้นเลือดมีประโยชน์ต่อวงการแพทย์ เพราะคาเฟอีนช่วยไปขยายหลอดเลือดแดงที่หล่อเลี้ยงหัวใจ ทำให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจได้มากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้เส้นเลือดแดงบริเวณที่ศีรษะหดตัว ซึ่งช่วยลดอาการปวดหัวจากไมเกรนได้ จากการศึกษาของนายแพทย์ วินเซนต์ ทูบิโอโล แห่งศูนย์การแพทย์ยูซีแอลเออ-ฮาร์เบอร์ ได้ตั้งทฤษฎีใหม่ว่า การรับคาเฟอีนจำนวน 400 มิลลิกรัมต่อวัน อาจช่วยลดอาการแพ้เกสรดอกไม้ได้
จากรายงานการ วิจัยในกลุ่มสตรีที่ดื่มกาแฟไม่เกิน 5 ถ้วยต่อวันพบว่า กาแฟไม่มีส่วนทำให้เป็นการเสี่ยงต่อการเป็นโรคของหัวใจมากขึ้น แม้ในรายที่มีปัญหาเส้นเลือดอุดตันหรือหัวใจเต้นไม่สม่ำเสมอ สำหรับผู้ที่ดื่มกาแฟทุกวัน วันละหกถ้วยขึ้นไปก็ไม่มีอัตราหัวใจสูงกว่าปกติ และจากการสำรวจหลายครั้ง
การวิจัยโดยมหาวิทยาลัย ฮาร์วาร์ดพบว่าผู้ดื่มกาแฟมีอัตร่การเป็นมะเร็งเต้านมต่ำกว่าผู้ที่ไม่ดื่ม กาแฟ ส่วนการศึกษาของมหาวิทยาลัยบอสตันพบว่า คนไข้ที่ดื่มกาแอย่างน้องห้าถ้วยต่อวัน มีความเสี่ยงเป้นมะเร็งลำไส้ต่ำกว่ากลุ่มอื่นถึงร้อยละ 40
กาแฟยัง กลายเป็นข่าวดีสำหรับผู้ชายทั่วโลก เมื่อดร.ดาร์ซี โรแบร์โตลิมา ผู้เชี่ยวชาญด้านเภสัชวิทยาของมหาวิทยาลัยริโอ เดอจาเนโร ในบราซิล เปิดเผยว่า ผู้ที่มีปัญหาหย่อนสมรรถภาพทางเพศอันเนื่องมาจากการดื่มสุรา การเสพยา ภาวะซึมเศร้าและอายุขัย สามารถแก้ปัญหานี้ได้ด้วยการดื่มกาแฟในปริมาณที่พอเหมาะในแต่ละวัน
กาแฟ
เครื่องดื่มยอดนิยมของมนุษย์ตลอดกาล  การดื่มกาแฟสดในปริมาณที่พอเหมาะ ช่วยให้สุขภาพจิตดีขึ้นได้

    โทษที่ต้องระวังจากการดื่มกาแฟเป็นประจำ

• กาแฟต้มหรือที่ชงแบบให้น้ำเดือดซึมผ่านผงกาแฟ หรือกาแฟที่ใช้ถุงผ้าชงนั่นเองจะเพิ่มอัตราเสี่ยงต่อโรคหัวใจ
• กาแฟต้มอาจทำให้ระดับคอลเลสเตอรอลในเลือดสูงขึ้น
• อาจทำให้เกิดอาการปวดศีรษะแบบไมเกรน
• ผู้หญิงที่ดื่มกาแฟจัดอาจมีอัตราเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุนเพิ่มขึ้นเมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ
หน้าที่ 1 - เครื่องดื่มกาแฟชนิดต่างๆ
                         
             เมล็ดกาแฟที่คั่วจนหอมกรุ่นจะต้องถูกบดและชงเพื่อที่จะทำเป็นเครื่องดื่ม การบดเมล็ดกาแฟคั่วสามารถทำได้ที่เตาอบกาแฟ ในร้านขายของชำ หรือในบ้านก็ได้ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นที่เตาอบกาแฟจากนั้นจะบรรจุและจัดจำหน่ายให้แก่ลูกค้า เมล็ดกาแฟสามารถบดได้หลายวิธี เครื่องบดเลื่อยใช้การหมุนในการตัดเมล็ดให้ขาดออกจากกัน เครื่องบดไฟฟ้าใช้การอัดกระแทกของใบมีดทื่อที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง จากนั้นก็นำมาชงเป็นกาแฟชนิดต่างๆ ให้เราดื่มกัน  การนำเสนอกาแฟบนโลกนี้มีหลายรูปแบบ แตกต่างกันตามพื้นที่ ออกไป เท่าที่พอจะรวบรวมได้มีดังนี้
     เอสเปรสโซ (อิตาลี: espresso) คือกาแฟที่มีรสแก่และเข้ม ซึ่งมีวิธีการชงโดยใช้แรงอัดไอน้ำหรือน้ำร้อนผ่านเมล็ดกาแฟคั่วที่บดละเอียด ที่มาของชื่อ เอสเปรสโซ มาจากคำภาษาอิตาลี "espresso" แปลว่า เร่งด่วน เอสเปรสโซเป็นกาแฟที่นิยมมากที่สุดในแถบประเทศยุโรปตอนใต้ โดยเฉพาะประเทศอิตาลี การสั่งกาแฟ "caffe" ในร้านโดยทั่วไปก็คือสั่งเอสเปรสโซ เอสเปรสโซถูกผลิตที่อิตาลีเอสเปรสโซมีต้นกำเนิดที่อิตาลีตอนที่อิตาลีล่า เอธิโอเปียมาเป็นอาณานิคมกาแฟก็นำมาปลูกที่อิตาลีส่วนใหญ่ ด้วยวิธีการชงแบบใช้แรงอัด ทำให้เอสเปรสโซมีรสชาติกาแฟซึ่งเข้มข้นและหนักแน่น ต่างจากกาแฟทั่ว ๆ ไปซึ่งชงแบบผ่านน้ำหยด และเพราะรสชาติเข้มข้น และหนักแน่นอันเป็นเอกลักษณ์นี้เอง ทำให้คอกาแฟดื่มเอสเปรสโซโดยไม่ปรุงด้วยน้ำตาลหรือนม และมักจะเสิร์ฟเป็นชอต (แก้วแบบจอก) เพื่อให้ปริมาณไม่มากจนเกินไป (ประมาณ 1-2 ออนซ์ หรือ 30-60มิลลิลิตร แตกต่างตาม พฤติกรรมการดื่ม ของแต่ละประเทศ) การสั่งเอสเปรสโซตามร้านกาแฟทั่วไป มักสั่งตามปริมาณเป็น "ซิงเกิ้ล" หรือ "ดับเบิ้ล" (ชอตเดียว หรือ สองชอต) เอสเปรสโซมีความไวสูงในการทำปฏิกิริยากับออกซิเจน เพื่อไม่ให้เสียรสชาติจึงควรดื่มตอนชงเสร็จใหม่ ๆ
     ผงกาแฟที่ใช้ ขึ้นอยู่กับแต่ละระบบการชง ระบบการชงแบบแรงดันน้ำ หรือแรงอัด จะต้องใช้ผงละเอียด แต่ไม่ถึงกับเป็นแป้ง (ขนาดของไซด์ผงกาแฟที่บด จะแปรผันตาม ระยะเวลาที่ทำกาแฟ อาทิ เครื่องชงแบบ เอสเปรสโซ่ เวลามาตราฐานอยู่ที่ 18-30 วินาที ก็ต้องใช้ ผงละเอียด แต่หากเป็นการชง ลักษณะอื่นๆ เช่น ชงโดยที่ชงแบบเฟรนช์เพรส ก็ต้องบดให้หยาบขึ้นและระยะเวลาที่ชงก็จะเพิ่มขึ้นตามลำดับ <ยิ่งหยาบยิ่งต้องใช้เวลานานขึ้นในการชง>)ในการชงเอสเปรสโซ จะต้องควบคุมปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่อรสชาติ อาทิ เมล็ดกาแฟที่ใช้ (สมควรเป็นเมล็ดกาแฟที่คั่ว เก็บมาไม่เกิน 1 เดือน) ,การบดกาแฟ (ขนาดของผงกาแฟที่บด ต้องสัมพันธ์ กับเครื่องชงและระยะเวลาการไหล ของกาแฟ ขณะชง) , น้ำที่ใช้ชงกาแฟ (คุณภาพเป็นน้ำที่ใช้ บริโภค ไม่ควรใช้นำสะอาดบริสุทธิ์ จนเกินไป เพราะ นอกจากไม่ได้รับ สารอาหารที่มากับน้ำแล้วยังมีผลกระทบ ต่อรสชาติ ด้วย) , ระยะเวลาในการชง (ดังที่กล่าวไว้ ในข้างต้น หากใช้เวลา การชงเอสเปรสโซ่ตำกว่า 18 วินาที หรือ underextract แสดงว่า การแพคกาแฟ ต่อชอต ไม่แน่นพอ หรือ ปริมาณผงกาแฟในชอต มีน้อยเกินไป หรือ ขนาดผงกาแฟหยาบเกินไป หากการกลั่นกาแฟ เอสเปรสโซ่ นานเกินกว่า 30 วินาที จะมีผลทำให้เอสเปรสโซ่ที่ได้ มีรสขม bitter ไม่เข้ม มีกลิ่นไหม้ burn จากการชงแบบเครื่องอัด ศัพท์ฝรั่งเรียก overextract)

กาแฟนม
     กาเฟโอเล (ฝรั่งเศส: Café au lait) คล้ายลาเต้ยกเว้นใช้การชงด้วยการหยดแทนเอสเปรสโซ พร้อมด้วยนมในปริมาณที่เท่าๆ กัน อาจเติมน้ำตาลตามชอบ เป็นกาแฟในแบบของฝรั่งเศส
     Café con leche เป็นกาแฟลาเตในแบบของชาวสเปน
     ลาเต้ เป็นเอสเปรสโซผสมนมร้อน ปกติมักโปะข้างบนด้วยฟองนม ความเข้มข้นไม่มากเท่าคาปูชิโนเนื่องจากใส่นมเยอะกว่า (ลาเต้ เป็นภาษาอิตาลีแปลว่านม ในอิตาลีเรียกลาเต้ว่า Caffè e latte หรือ caffelatte)
     กาแฟนม เป็นเครื่องดื่มที่คล้ายๆกับนมช็อกโกแลต แต่ใช้น้ำเชื่อมกาแฟแทนการใช้น้ำเชื่อมช็อกโกแลต

มอคค่า เป็นการดัดแปลงของลาเต้ มีอัตราส่วนของเอสเปรสโซและนมเป็นอัตรา 1:3 เหมือนกับลาเต้ แต่มีการใส่ช็อกโกแลตเพิ่มลงไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การใช้น้ำเชื่อมช็อกโกแลตแทนช็อกโกแลตผลในเครื่องขายอัตโนมัติ ช็อกโกแลตที่ใช้อาจจะเป็นช็อกโกแลตดำหรือช็อกโกแลตนมก็ได้ คำว่า มอคคาชิโน (อังกฤษ: moccaccino) เป็นคำที่ใช้ในบางภูมิภาคของยุโรปและตะวันออกกลาง หมายถึงกาแฟลาเต กับโคคาหรือช็อกโกแลต ส่วนในอเมริกา โดยทั่วไปหมายถึงคาปูชิโนใส่ช็อกโกแลต
             


                       คาบูชิโน คอร์ตาโด

คาปูชิโน ประกอบด้วยเอสเปรสโซ, นมร้อน, และฟองนม ในสัดส่วนเท่าๆ กัน ให้รวมมีปริมาตร 4.5 ออนซ์ (เสิร์ฟในถ้วยขนาด 5 ออนซ์) ปกติจะตกแต่งด้วยผงอบเชย ลูกจันทน์เทศ (nutmeg) หรือโกโก้
แฟรปปูชิโน เป็นกาแฟที่ถูกตั้งชื่อและจดทะเบียนการค้าโดยสตาร์บัคส์ เป็นกาแฟผสมเครื่องดื่มชนิดเย็นกับกาแฟขวด
มอคคาสิปปี คล้ายๆกับแฟรปปูชิโนของสตาร์บัค แต่ใช้เอสเปรสโซแทนกาแฟผง
คอร์ตาโด คือเอสเปรสโซที่ผสมนมอุ่นลงไปเล็กน้อยเพื่อลดความเป็นกรด อัตราส่วนของนมต่อกาแฟอยู่ที่ 1:1-1:2 และนมจะถูกใส่หลังเอสเปรสโซ ถึงแม้ นมที่ถูกอุ่นด้วยไอน้ำจะไม่มีฟองมากนัก แต่คนชงกาแฟ (barista) หลายคนก็ทำฟองขนาดเล็กๆเพื่อทำลาเต้อาร์ท กาแฟชนิดนี้เป็นที่นิยมในสเปน, โปรตุเกส และลาติน อเมริกา โดยมากแล้วพวกเขาจะดื่มกาแฟชนิดนี้ในเวลาบ่าย

มัคคิอาโต มาจากภาษาอิตาลีหมายถึง "ถูกทำสัญลักษณ์" หรือ "ถูกกรอง" มักจะหมายถึง
     คาเฟ มัคคิอาโต หรือ เอ็กเพรสโซ มัคคิอาโต หรือ ชอร์ท มัคคิอาโต
     ลาเต มัคคิอาโต หรือ ลอง มัคคิอาโต

อัฟโฟกาโต ในภาษาอิตาลีแปลว่า "ถูกทำให้จม" คือของหวานที่ใช้กาแฟเป็นฐานการปรุง สำหรับ "อัฟโฟกาโต สไตล์ (Affogato style)" หมายถึงการราดหน้าเครื่องดื่มหรือของหวานด้วยเอ็กเพรสโซ และอาจะราดตามด้วยซอสคาราเมล หรือซอสช๊อคโกแลต
คาเฟ อเมริกาโน หรือเรียกง่ายๆว่า อเมริกาโน คือรูปแบบของกาแฟที่มาจากการเติมเอ็กเพรสโซลงในน้ำร้อน ทำให้มีรสเข้มเหมือนกาแฟจุ่มแต่มีรสชาติที่ต่างออกไป ความเข้มของอเมริกาโนมีหลายแบบ ขึ้นอยู่กับจำนวนช็อตที่ใส่ลงไป ลองแบล็ค ก็เป็นอเมริกาโนจำพวกหนึ่ง
กาแฟกรองอินเดีย (มัทราส) (Indian (Madras) filter coffee) นิยมทั่วไปทางภาคใต้ของอินเดีย ทำจากกากกาแฟหยาบๆ ที่ได้จากเมล็ดที่ถูกอบจนไหม้ (อาราบิกา, พีเบอร์รี) ชงด้วยวิธีหยดประมาณสองถึงสามชั่วโมง ในตัวกรองโลหะแบบของอินเดียโดยเฉพาะ ก่อนที่จะนำไปเสิร์ฟกับนมและน้ำตาล โดยปกติมักมีสัดส่วนกาแฟหนึ่งนมสาม
            

              กาแฟกรองอินเดีย (มัทราส)     Ca phe sua da กาแฟสไตล์เวียดนาม

Ca phe sua da กาแฟสไตล์เวียดนาม เป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่ได้จากการชงแบบหยด ชงโดยการหยดน้ำผ่านตะแกรงโลหะลงไปในถ้วย ซึ่งมีผลให้ได้น้ำกาแฟเข้มข้น จากนั้นนำไปเทผ่านน้ำแข็งลงไปในแก้วที่เติมนมข้นหวานไว้ก่อนแล้ว เนื่องจากการชงกาแฟประเภทนี้ใช้กากกาแฟปริมาณมาก จึงทำให้การชงกินระยะเวลานาน
กาแฟกรีก หรือ กาแฟตุรกี ชงด้วยการต้มกากกาแฟละเอียดกับน้ำพร้อมกันในไอบริก ซึ่งเป็นหม้อทำจากทองเหลืองหรือทองแดงมีด้ามยาวและเปิดด้านบน เมื่อชงเสร็จ ก็จะนำไปรินลงในด้วยเล็กๆ โดยไม่กรองกากกาแฟออก ตั้งกาแฟทิ้งไว้สักพักก่อนดื่ม มักเติมเครื่องเทศและน้ำตาลด้วย
โกปิทูบรูค (Kopi tubruk) เป็นกาแฟสไตล์อินโดนีเซียลักษณะเหมือนกับกาแฟกรีก แต่ชงจากเมล็ดกาแฟหยาบ และต้มพร้อมกับน้ำตาลปอนด์ปึกใหญ่ๆ นิยมดื่มในชวา, บาหลี, และบริเวณใกล้เคียง
กาแฟไอริช หรือเหล้ากาแฟ คือกาแฟที่ชงแล้วผสมด้วยวิสกี้ และมีชั้นของครีมอยู่ข้างบน
           

            โกปิทูบรูค (Kopi tubruk) กาแฟกรีก หรือ กาแฟตุรกี

             นอกจากนี้ก็ยังมี กาแฟเย็นที่มักจะเสิร์ฟพร้อมกับนมและน้ำตาล ในประเทศไทยมีกาแฟชนิดหนึ่งที่เรียกว่ากาแฟโบราณ ซึ่ง เป็นกาแฟที่ชาวบ้านทั่วไปรับประทานกัน ได้จากการนำเมล็ดที่คั่วเคลือบกับน้ำตาลและงา (เกรด1) หรือเมล็ดกาแฟที่คั่วผสมกับ ข้าวโพดคั่ว ข้าวคั่วเคลือบน้ำตาล (เกรด2) ถ้าเอากาแฟโบราณดำมาชงแล้วใส่น้ำแข็งจะเรียกว่าโอเลี้ยง ถ้าเอากาแฟโบราณดำใส่นมข้นจะเรียกว่า โกปี๊ ถ้ากาแฟโบราณดำใส่น้ำแข็งใส่นมสดจะเรียกว่า โอเลี้ยงยกล้อ และสุดท้ายคือถ้านำกาแฟโบราณดำมาใส่นมข้น น้ำแข็งและนมสดจะเรียกว่า กาแฟเย็น
1. ชมแปลงปลูกดอกไม้และผลไม้เมืองหนาว ดอกนางพญาเสือโคร่งบาน เป็นแปลงปลูกผลไม้เมืองหนาว เช่า เกาลัด มะคาเดเมียนัต บ๊วย ท้อ พลับ พลัม กาแฟ ให้ผลผลิตในฤดูหนาว แต่ไม่มีจำหน่าย มีเจ้าหน้าที่พาชมแปลงปลูกพืชรอบพื้นที่ บริเวณดอยช้างมีอากาศดี และเย็นสบายเหมาะ สำหรับ การพักผ่อน ในช่วงเดือนธ.ค. ต้นม.ค. ดอกพญาเสือโคร่งจะบานเป็นสีมชมพูทั่วภูเขางดงามยิ่งนัก

2.กาแฟ อาราบิกา พื้นที่ดอยช้างอยู่ที่ระดับความสูงเกิน 1,000 เมตร เหมาะสำหรับปลูกกาแฟอาราบิกา จึงได้ผลผลิตดี ทางศูนย์ติดตั้งเครื่องคั่วบดกาแฟ เพื่อแปรรูปวัตถุดิบ มีกาแฟที่คั่วบดแล้วให้นักท่องเที่ยวได้ลองชิม

3. บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ บริเวณพุทธอุทยานดอยช้าง ซึ่งมีหลวงพ่ออำนาจ สีลคุโณ ได้มาปฏิบัติธรรมจำพรรษาอยู่ที่นี่ตั้งแต่ปี 2532 เป็นผู้ดูแลรักษาพุทธอุทยาน ดอยช้าง ยังคงสภาพความเป็นธรรมชาติของป่าไม้ไว้ได้อย่างสมบูรณ์มาก มีบึงน้ำ ขนาดใหญ่หรือที่เรียกว่าสระมรกตอยู่กลางพุทธอุทยาน สีเขียวของน้ำบ่งบอกได้ถึงความอุดมสมบูรณ์ บริเวณ รอบๆ รายล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่น้อย ตลอดเส้นทางที่เดินไปก็จะมีเสียงกบ เสียงจิ้งหรีดร้องทักทาย อยู่ตลอด เวลา ทางเดินเล็กๆ จากบ่อน้ำจะนำพาเราไปสู่ลานพุทธสถานที่มีพระพุทธรูปปางต่างๆไว้ให้ประชาชน ได้กราบไหว้ สักการบูชา

4.จุด ชมวิวดอยช้าง บริเวณโดยรอบของจุดชมวิวจะถุกประดับประดาไปด้วยพรรณไม้เมืองหนาวมากมาย หลากหลายสี ถ้ามาในช่วง ฤดูหนาว ที่จุดชมวิวแห่งนี้จะมีอากาศหนาวเย็นตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 5 โมงเย็นไปเลยทีเดียว เนินเล็กๆ ของจุด ชมวิว เป็นที่ให้นักท่องเที่ยวได้นักพักผ่อน และเฝ้ารอการกลับบ้านของพระอาทิตย์ ซึ่งแสงสุดท้ายที่สาดส่องขึ้นไปทั่วฟ้าสวยงามเหลือจะบรรยาย

5.ศูนย์ บริการวิชาการด้านพืชและปัจจัยการผลิตเชียงราย 2 หรือ สถานีทดลองเกษตรที่สูงวาวี ส่งเสริมการปลูกพันธุ์ไม้เมืองหนาว ลดการทำไร่เลื่อนลอย  อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี ทำให้ศูนย์แห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งศึกษาดูงานและท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่ สวยงามแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงราย ด้วยบรรยากาศภายในบริเวณศูนย์ฯที่ร่มรื่น รายล้อมไปด้วยไม้ดอกไม้ประดับเมืองหนาว เช่น ต้นโปรเตีย แบงค์เซีย ซากุระ ที่แย้มดอกสวยสดงดงามแปลกตาอยู่ทั่วไป ทั้งยังอบอวลด้วยกลิ่นหอมของไม้หอมเมืองหนาวนานาชนิด เช่น ดอกลำโพง ที่ส่งกลิ่นทุกค่ำคืน และยังมีไม้ดอกที่ชาชมได้ยาก คือ ว่านสี่ทิศ นอกจากนี้ยังมีแปลงปลูกและขยายพันธุ์ผลไม้เมืองหนาวปลอดสารพิษ เช่น ชาจีนอู่หลง ชาไต้หวันชิงชิง ชาพื้นเมืองสายพันธุ์อัสสัม ไว้ให้ท่านลิ้มชิมรสได้ฟรี


ชอบกาแฟขมๆ
คน ที่ชอบกาแฟรสเข้มจัดนั้น จะเป็นคนเอาการเอางาน ช่างคิด ช่างวางแผน มีหัวทางธุรกิจ และชอบการทำงานที่ท้าทาย แต่ก็มักเป็นคนที่มีความเครียดเสมอๆ เพราะเฝ้าครุ่นคิดแต่หนทางที่จะประสบความสำเร็จในสิ่งที่ตัวเองหวัง
ชอบกาแฟรสชาติหวานมัน
คน ที่ชอบกาแฟรสชาติเข้มข้น ทั้งหวานและมันถึงใจ แสดงว่าเป็นคนที่เปิดเผย ใจกว้าง ชอบความสนุกสนานในชีวิต เป็นคนร่าเริง ช่างกระเซ้าเย้าแหย่ นอกจากนั้นยังเป็นคนรักความยุติธรรม ไม่ชอบการเอารัดเอาเปรียบ และจะรักษาสิทธิของตัวเองเสมอ
ชอบกาแฟที่กลิ่นหอมแรง
ส่วน คนที่ชอบกาแฟที่มีกลิ่นหอมแรงๆ เข้มข้น รู้มั๊ยว่าตัวเองเป็นแคนที่ช่างเลือก ชอบแต่สิ่งที่ดีที่สุด มักพิถีพิถันต่อข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัว เป็นคนรักเพื่อน มีทัศนะที่ชัดเจนต่อสิ่งต่างๆและชอบการอยู่ในสังคมที่มีแต่คนทัศนะตรงกัน
ชอบกาแฟรสอ่อนๆ
คน ที่ชอบกาแฟรสชาติอ่อนๆ ขอให้มีกลิ่นกาแฟก็เป็นอันใช้ได้นั้น แสดงว่าเป็นคนที่ชอบความสงบ สุขภาพ รักความสะอาด และความปลอดโปร่ง สบายกาย สบายใจ นอกจากนั้นยังเป็นคนเคารพความเห็นของผู้อื่น ไม่ชอบโต้แย้งกับใครโดยไม่จำเป็น
ชอบกาแฟหวานจัด
คน ที่ชอบกาแฟหวานมากๆ เรียกว่าหวานนำรสอื่นๆ มาเลยนั้น แสดงว่าเป็นคนที่มีอารมณ์เปราะบาง ปรวนแปรง่าย เป็นคนที่มีความใฝ่ฝันเกี่ยวกับชีวิตตัวเองที่เป็นอยู่ ใฝ่ฝันอยากมีชีวิตที่ดียิ่งๆ ขึ้นไปอีก และอยากเป็นคนพิเศษของใครสักคน